The Fairy of Dark Evil [ภาค1] - The Fairy of Dark Evil [ภาค1] นิยาย The Fairy of Dark Evil [ภาค1] : Dek-D.com - Writer

    The Fairy of Dark Evil [ภาค1]

    "ในยามราตรีใดที่จันทราส่องแสงสีแดงดั่งโลหิด ผู้ใดที่มีความรู้สึกด้านลบ ปีศาจแห่งแดนมิคสัญญีจะกลับมาแล้วกลืนกินวิญญาณคนผู้นั้นจนสูญสลายไปตลอดกาล" แต่การกลับมาของเขาในครั้งนี้กลับพบเจอกับเธอเข้า...

    ผู้เข้าชมรวม

    279

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    279

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    8
    หมวด :  แฟนตาซี
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 พ.ค. 67 / 03:38 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    สวัสดีจร้าาา>.<
    เหล่ารีดที่น่ารักทุกคน
    เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ไรท์แต่งน้า
    สำหรับเรื่องนี้
    เป็นเรื่องสั้นที่ไม่สั้น
    แต่รับรองว่าสนุกแน่นอน99%
    และเหลืออีก
    1% สำหรับคนที่คิดว่าไม่ชอบ
    ถามว่าทำไมไม่ทำเรื่องยาวหลายตอน?
    สาเหตุคือมันเป็นเรื่องที่แต่งเล่น ๆ แล้ว
    ดองเอาไว้ในสมุดเล่มเล็ก ๆ
    และด้วยความขี้เกียจของไรท์
    ด้วยอีกประการหนึ่ง
    //หลบพระบาทารี้ดแป๊ป
    อะแฮ่ม! เพราฉะนั้นแล้ว
    ถ้าอยากให้แต่งต่อก็ช่วยส่งกำลังใจ
    กันมาเยอะ ๆ ด้วยน้า
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      "ฮึก ฮือ ๆ อะอึก ฮือ ๆๆ"

      ท่ามกลางสวนดอกไม้ที่ควรเงียบสงัด  กลับมีเสียงร้องไห้ครวญครางของเด็กผู้หญิงดังออกมาเป็นระยะ ๆ  เมื่อตามเสียงนั้นไปแล้ว  ก็พบกับเด็กสาวผมสีควันเขม่านั่งก้มหน้าก้มตากอดเข่าอยู่ข้างหินผาขนาดใหญ่  แต่หากสังเกตดูดี ๆ ภายใต้เส้นผมสีควันเขม่าที่ปิดบังใบหน้า  ก็จะเห็นใบหน้าสีขาวจิ้มลิ้มที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความโศกา

      ฝ่ามือเล็กค่อย ๆ เอื้อมไปยังท้องฟ้าทีละน้อยแล้วทำท่าไขว่คว้าบางสิ่ง  แต่กลับคว้าได้เพียงอากาศธาตุกลับมาเพียงเท่านั้น  ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงทำต่อไปเรื่อย ๆ ราวกับคนึงหาบางสิ่งที่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจหวนกลับมาได้อีกตลอดกาล  มือสีขาวหยุดอยู่กลางอากาศเมื่อรู้ว่าสิ่งที่ทำมันไร้ประโยชน์  ดวงตาสีอเมทิสของเธอสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด  สุดท้ายน้ำตาของเธอก็กลับมาไหลอีกครั้ง


      ---------


      ในอดีตกาลเคยมีเรื่องเล่าว่า  ราตรีใดที่จันทราปรากฏเป็นสีแดงดั่งโลหิต  ผู้ใดที่มีความรู้สึกเศร้าโศก ท้อแท้ สิ้นหวัง เกลียดชัง ริษยา โกรธา  ไม่ว่าจะที่ใดหรือแห่งหนใดที่มีความรู้สึกด้านลบเหล่านี้  ปีศาจแห่งแดนมิคสัญญีก็จะตื่นจากการหลับไหล  เพื่อออกมากลืนกินวิญญาณของผู้คนเหล่านั้นจนสูญสลายหายไปตลอดกาล  แต่ก็ไม่อาจเป็นจริงเสมอไป  ทำไมน่ะหรือ?  ก็เพราะ.. มันเป็นเพียงเรื่องเล่าอย่างไรล่ะ



      "ฮือ ๆๆ ฮึก ท ทำไม..ทำไมล่ะ  ทำไมถึงเป็นแบบนี้  ไม่เหลือ..อะไรอีกแล้ว  ทำไมล่ะ  ฮึกฮือ ๆๆ"

      ร่างบางเอ่ยขึ้นเบา ๆ โดยหวังว่าจะได้รับคำตอบจากอากาศที่ว่างเปล่า  แต่ยังไงคงไม่มีเสียงใดตอบกลับมา  เธอรู้...ไม่มีทางที่จะมีใครตอบเธอกลับหรอก  มันคงจะเป็นเช่นนั้น


      ทว่าอยู่ ๆ ลมเย็นหอบหนึ่งก็พัดเข้ามาปะทะร่างของเธอโดยไม่ทันตั้งตัว  เสียงใบไม้ แมลง สัตว์ทุกอย่างเงียบลงจนไร้ซึ่งเสียงใด ราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังคืบคลานเข้าหาเธออย่างช้า ๆ


      "...เพราะความโลภ  ความเกลียดชัง  ความริษยา อย่างไรเล่าเด็กน้อยเอ๋ย"

      เสียงแหบพร่าดังขึ้นกึกก้องรอบทิศโดยไม่รู้ที่มา  หมอกสีดำทมิฬค่อย ๆ ปกคลุมไปทั่วทุกอาณาบริเวณ  ความกลัวเริ่มเกาะกุมจิตใจของเด็กสาว  ร่างกายของเธอไหวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ดวงตาสีม่วงอเมทิสมองไปรอบๆ อย่างตื่นกลัวก่อนจะพยายามรีดเค้นตั้งสติแล้วไตร่ตรองคำตอบ  เธอค่อยๆ ลุกขึ้นหลังจากที่ตัดสินใจรวบรวมความกล้าได้


      "เอ่อ ค ความโลภ  ความเกลียดชัง  ความริษยา  สามารถพรากชีวิตของผู้คนได้อย่างนั้นหรือ?"

      หึหึหึ  เสียงหัวเราะเบาๆ แต่ดังทะท้อนก้องฟังดูน่าขนลุก  น้ำเสียงแหบพร่าของบางสิ่งได้ตอบกลับเด็กสาว


      "เด็กน้อย  เจ้ารู้หรือไม่การที่มนุษย์อยากจะทำอะไร  ย่อมต้องมีความรู้สึกเป็นตัวชี้นำ  อย่างการที่เจ้าร้องไห้  เป็นเพราะความรู้สึกโศกเศร้าจากการที่มารดาของเจ้าสิ้นไป  ใช่หรือไม่เล่า "

      "ท ท่านรู้ได้อย่างไร!?"  ร่างบางเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ จนเธอผงะถอยหลังไปก้าวนึงโดยไม่รู้ตัว

      "ไม่มีสิ่งใดที่ข้าไม่รู้หรอกนะเด็กน้อย หึหึหึ "

      เสียงแหบพร่าตอบอย่างมั่นใจเจือขำขัน  ทำให้เด็กน้อยกึ่งสงสัยกึ่งใจชื้นขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง  จนในที่สุดเธอก็อดถามอะไรบางอย่างกับบางสิ่งนี้ไม่ได้


      "ท่าน... คือ ข้ารู้ว่ามันดูแปลก"


      "แต่ว่า"

      "ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าท่านเป็นใคร?"

      หลังจากเด็กสาวพูดจบ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะมีเสียงตอบกลับมา

      "ข้าเป็นใครอย่างนั้นหรือ...อืม  ข้าเป็นใครสินะ"

      เสียงแหบพร่าพึมพำเบา ๆ เมื่อหวนระลึกถึงอดีตที่ล่วงเลย  หมอกควันสีดำทมิฬวูบไหวไปมาตามด้วยเสียงหวีดหวิวดูน่าหวาดหวั่นและเสียงหัวเราะราวกับขบขันกับอะไรบางอย่าง  เด็กสาวที่เห็นดังนั้นจึงถอยหลังออกห่างจนชิดกับหินผาด้วยความกลัว  เงาสีดำผงะเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าตนทำให้เด็กสาวตรงหน้าตกใจ  ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

      "..."

      "มันนานมากแล้ว... ไม่รู้สิ ข้านั้นไม่มีนามหรอก"

      ความรู้สึกที่แฝงมากับเสียงแหบพร่านั้นทำให้เด็กสาวเหมือนสัมผัสถึงบางอย่าง  เขาเป็นเหมือนกับเธอ..ไม่สิ  มากกว่านั้น  เหมือนกับว่าเขาเป็นจุดรวมความรู้สึกด้านลบต่าง ๆ เอาไว้  ความคิดหนึ่งเข้ามาในหัว เธออยากช่วยเขา

      "ข้า..ข้าชื่อ 'ลาน่า' ไม่มีนามสกุลหรอก"


      "ถ ถ้าเป็นไปได้ข้าจะขอเรียกท่านเป็นคำที่ข้าคิดได้หรือไม่"


      กลุ่มควันสีดำแค่นเสียงในใจ ตั้งชื่อให้กับตัวตนแบบนี้ช่างเป็นเรื่องที่น่าตลกเสียจริง


      "อ่า  คือว่าข้า..ขอเรียกท่านว่า 'ท่านโครว' ได้หรือไม่"

      พอเอ่ยจบลาน่าก็ทำท่ากล้า ๆ กลัว ๆ  เธอจ้องไปที่กลุ่มควันสีดำเบื้องหน้าอย่างคาดหวัง  แต่ในสายตาของผู้ที่ถูกจ้องเธอก็เหมือนกับลูกสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่ไม่ประสีประสาเท่านั้น

      "หึ  ตามใจเจ้า"

      "อ เอ๊ะ! ได้จริง ๆ หรอ เอ่อ..ท่านโคร-"

      "แค่ ครว  ไม่ต้องมีท่านข้าไม่ชอบ"


      เจ้าตัวทำเสียงเข้มดูไม่ชอบใจ ดูเหมือนเป็นความไม่ชอบส่วนตัวเพราะสาเหตุอะไรสักอย่าง แต่เด็กสาวก็ไม่ได้คิดมากอะไรเธอแค่เข้าใจตามประสาเด็ก


      "อ่า..โครว"


      ดูเหมือนว่าความกลัวของเด็กสาวตรงหน้าจะมลายหายไปจนหมดสิ้น ดวงตาของเธอมีประกายเหมือนพบอะไรบางอย่าง


      หึ  โครวแค่นเสียงอย่างพอใจแต่ก็ไม่ทีเดียว  เพราะเขายังต้องทำหน้าที่อยู่  นั่นคือ 'กลืนกินดวงวิญญาณ'  แต่เขาทำอย่างนั้นกับเด็กสาวตรงหน้าไม่ได้ ซึ่งก็ยังมีอีกหนทางนั่นคือ  'กลืนกินความทรงจำ' เขาจะต้องกลืนกินความทรงจำที่โหดร้ายที่สุดในชีวิตของเหยื่อ  เท่ากับว่าทุกคนที่อยู่ในช่วงเวลาอันโหดร้ายนั้น  จะหายไปจากความทรงจำทั้งหมดเหมือนไม่เคยมีตัวตน  แบบไม่มีวันรื้อฟื้นได้อีกตลอดกาล


      "เด็กน้อย ไม่สิ ลาน่า  เจ้าอยากลืมความทรงจำในตอนนั้นของเจ้าหรือไม่?"

      เด็กสาวหลุดออกจากภวังค์ คำถามนี้ทำให้ดวงตาของเธอไหวสั่น


      "อืม...อยากสิ  เรื่องแบบนั้นน่ะข้าไม่อยากจดจำหรอก"

      เด็กสาวเอ่ยเสียงเบา  โครวเข้าใจดีถึงเรื่องแบบนั้น  มันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากพบเจอ

      "หากข้าบอกว่า  ข้าสามารถลบความทรงจำของเจ้าได้เล่า"

      "ท ทำอย่างนั้นได้หรือ?  ทำให้ข้าเถอะข้าอยากลืมเรื่องเหล่านั้น!"

      "เจ้าคิดดีแล้วรึ?"


      โครวเอ่ยย้ำ เด็กสาวกำหมัดแล้วตะโกนออกไป


      "ข้า.. ข้าคิดดีแล้ว!"

      ในตอนนี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่โครวคาด แต่ลึก ๆ แล้วเขาก็ยังคงกังวลอยู่เพราะลาน่าก็เป็นเพียงแค่เด็กคนนึง

      "เห้อ..ได้สิ ถ้าเจ้าว่าอย่างนั้น"

      ทันใดนั้นเองกลุ่มควันสีดำก็ขยับเข้ามาหาลาน่าในระยะประชิด  มันค่อย ๆ รวมตัวปรากฏเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาแต่ก็เฉยชาราวกับรูปปั้น  ผมสั้นสีดำขลับแซมขาวเป็นบางจุด ดวงตาสีแดงเลือดที่ภายในเต็มไปด้วยประกายแห่งการฆ่าฟัน  ผิวตัวสีขาวซีดตัดกับสีผมยิ่งดูเหมือนซากศพ  ชุดคลุมยาวสีดำมีฮู้ดที่ด้านหลังที่เกิดจากควันค่อย ๆ โบกสะบัดตามแรงลม  ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาก็คือโครวนั่นเอง

      "อืม ถ้าร่างนี้คงจะสะดวกกว่าสินะ"

      "นี่.. โครวเหรอ?"

      "ใช่  เจ้าคิดว่าข้าในร่างนี้เป็นอย่างไร"

      เสียงแหบพร่าดังมาจากร่างสูงเมื่อเห็นสีหน้าชวนฉงนของเด็กสาว

      "เอ๊ะ! อ่า คือข้าคิดว่าเจ้าสูงไปหน่อยแค่นั้นเอง"


      เด็กสาวประหม่ามาก เธอไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลยได้แค่พูดสิ่งที่เธอคิดออกไปเท่านั้น


      จ้องตากันครู่หนึ่ง  ร่างสูงก็ค่อย ๆ ชันเข่าลงให้อยู่ในระดับเดียวกัน  ลาน่าที่เห็นดังนั้นจึงยิ้มแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ


      "ข้าจะลบความจำของเจ้า  มันอาจจะเจ็บอยู่บ้าง"

      "แล้วมันเจ็บมากไหม?"

      "ข้าจะพยายามไม่ทำให้เจ้าเจ็บ"

      เมื่อโครวเอ่ยจบก็คว้าเอาร่างบางมาอยู่ในอ้อมกอด พร้อมกำมือของเธอเอาไว้อย่างทะนุถนอม

      "!!?"

      "ลาน่า เจ้าหลับตาเสีย"

      "อ อื้ม"

      เมื่อเห็นว่าลาน่าหลับตาลงสนิทโครวจึงหลับตาลงตาม  ทันใดนั้นก็เกิดแสงสีฟ้ารอบตัวของเด็กสาว  แสงสีฟ้านั้นค่อย ๆ ไหลไปยังชายหนุ่มที่โอบกอดเธอเอาไว้  ความเจ็บปวดเริ่มปรากฏ มันรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ  จนเด็กสาวเผลอขยับตัวเข้าไปซุกชายหนุ่มเพื่อหาที่พึ่ง




      ม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่  ตอนนี้สีหน้าของเด็กสาวดูผ่อนคลายลงเป็นอย่างมาก  แสดงให้เห็นว่าการกลืนกินความทรงจำใกล้เสร็จสิ้นแล้ว


      แสงสีฟ้าค่อย ๆ ไกลจากตัวของเธอไปยังชายหนุ่มจนหมดสิ้น  ดวงตาสีแดงเลือดลืมขึ้นมาอีกครั้ง  แล้วเลื่อนไปยังร่างบางที่หลับตาพริ้มซุกอกตนเองอยู่  เขาตั้งใจว่าจะไม่ปลุกแล้วปล่อยให้เธอหลับต่อไป


      "เห้อ  เจ้าทำให้ข้าต้องลำบากอีกแล้วนะ..ลาน่า"


      โครวถอนหายใจให้กับเด็กหญิงในอ้อมแขน จำไม่ได้เลยว่าเขาถอนหายใจไปกี่ครั้งแล้วกันนะ?



      ---------

      ตอนแรกไรท์ตั้งใจว่าจะตัดจบเรื่องตรงนี้แล้วนะ  คิดไปคิดมาเดี๋ยวเอาเป็นว่าให้ภาคนี้จบเป็นภาค1ไปเลยสั้น ๆ ส่วนภาค2นั้นก็ไม่แน่ว่าอาจไม่ต่อ

      นอกจากนั้นไรท์เองจะมารีไรท์เป็นระยะ ๆ นะเดี๋ยวจะเปิดให้อ่านไปยาว ๆ เลยค่า


      จบแล้วน้า

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×